เคล็ดลับเกษตรกรยุคใหม่
โรคผลเน่าในทุเรียน โรคร้ายทำลายสวนทุเรียนในช่วงร้อนชื้น
ในช่วงร้อนปนฝนแบบนี้ ชาวสวนทุเรียน ควรระวังการระบาดของโรคผลเน่าไว้ให้ดีนะครับ เพราะโรคนี้ สามารถสร้างความเสียหายให้สวนทุเรียนแสนรักของคุณได้ตั้งแต่ตอนยังเป็นผลอ่อน ช่วงก่อนเก็บเกี่ยว ช่วงระยะเก็บเกี่ยวผล หรือแม้กระทั่งหลังการเก็บเกี่ยวก็ยังมีโอกาสเจอได้ครับ
อาการ : เริ่มแรกจะเกิดจุดแผลขนาดเล็กสีน้ำตาลดำบนผลทุเรียน จุดแผลจะขยายใหญ่ลุกลามมากขึ้น ถ้าอากาศชื้นสูงจะพบเส้นใยสีขาวของเชื้อราบนแผล ซึ่งสามารถพบอาการของโรคได้ตั้งแต่ทุเรียนยังอยู่บนต้น ถ้าอาการรุนแรงมาก ผลทุเรียนจะเน่าและร่วงหล่นก่อนกำหนด
วิธีแก้ไขและป้องกันโรคผลเน่า “ก่อนเก็บเกี่ยว”
1. หมั่นตรวจผลทุเรียน ตัดผลที่เป็นโรค และเก็บผลเน่าที่ร่วงหล่นนำไปทำลายนอกแปลงปลูก
2. พ่นด้วยยาป้องกันกำจัดโรคพืช
สูตรที่ 1 : เมทาแลกซิล 25% ดับเบิลยูพี อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
สูตรที่ 2 : ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิลยูพี อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่ม 1-2 ครั้ง ทุก 7-10 วัน หยุดพ่นยาก่อนเก็บเกี่ยวผลอย่างน้อย 15 วัน
3.ไม่นำเครื่องมือตัดแต่งที่ใช้กับต้นที่เป็นโรคไปใช้ต่อกับต้นปกติ และทำความสะอาดเครื่องมือก่อนนำไปใช้ใหม่ทุกครั้ง
วิธีแก้ไขและป้องกันโรคผลเน่า “ขณะเก็บเกี่ยว”
1.ระวังไม่ให้ผลทุเรียนสัมผัสกับดิน หรือปูพื้นดินที่จะวางผลด้วยกระสอบที่สะอาด เพื่อลดโอกาสที่ผลจะสัมผัสกับดินซึ่งมีเชื้อสาเหตุโรค
2.การขนย้ายควรระมัดระวัง ไม่ให้เกิดบาดแผลที่ผล
วิธีแก้ไขและป้องกันโรคผลเน่า “หลังเก็บเกี่ยว”
1.หากพบผลเน่าต้นละ 1 ลูก ให้ฉีดพ่นผลด้วย ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ก่อนเก็บผลทุเรียน 30 วัน เพื่อป้องกันเชื้อลุกลามไปยังต้นอื่น
2.เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ให้จุ่มผลทุเรียนด้วย อิมาซาลิล ความเข้มข้น 500 มิลลิกรัมต่อลิตร 3 นาที หรือ ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม ความเข้มข้น 2,000 พีพีเอ็ม 2 นาที หลังเก็บเกี่ยวทันที ก่อนจะผึ่งให้แห้งก่อนขนส่ง ด้วยห้องเย็นที่อุณหภูมิ 15 °c วิธีนี้จะช่วยลดความเสียหายจากการแสดงอาการผลเน่าได้
จะเห็นว่าโรคผลเน่านั้นระบาดได้อย่างรวดเร็ว และต้องเฝ้าระวังในทุกขั้นตอนการปลูก โดยเฉพาะในช่วงก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือนนั้นสำคัญมากครับ เพราะเป็นช่วงที่พบโรคนี้ได้บ่อยที่สุด ทางที่ดี เราขอแนะนำให้เกษตรกรทุเรียน หันมาใช้โดรนเกษตรช่วยฉีดพ่นยา ซึ่งมีข้อดี อาทิ
1. ฉีดพ่นได้ดีทั้งทุเรียนเล็กและทุเรียนใหญ่ สามารถฉีดเก็บบนยอดต้นทุเรียนได้
2. ช่วยประหยัดเวลาและไม่เปลืองยา
ข้อควรระวัง
-ส่วนยอดจะโดนยาเยอะเป็นพิเศษ หากใช้ตัวยาหรือปุ๋ยที่ละลายได้ไม่ดีก็ทำให้หัวโดรนอุดตัน
-ต้นทุเรียนใหญ่ ไม่สามารถฉีดละเอียดได้เท่าไหร่นัก อาจต้องฉีดเพิ่มเติมที่ใต้ยอดเล็กน้อย
(ขอบคุณข้อมูลการใช้งานจริงจาก https://kasetgo.com/t/topic/42118 )
มองหาโดรนเกษตรที่ตอบโจทย์ DJI Phantom Thailand ขอแนะนำ DJI AGRAS T20 โดรนเพื่อการเกษตรรุ่นใหม่ รองรับถังน้ำยาได้สูงสุดถึง 20 ลิตร มาพร้อมสมรรถนะการบินอันทรงพลัง ที่มอบทั้งความเสถียรและความปลอดภัยในการบินให้แก่ผู้ใช้งาน บวกกับความสามารถในการฉีดพ่นที่โดดเด่น แม่นยำ พร้อมเรดาร์กันชนแบบรอบทิศทาง จึงสามารถทำงานได้อย่างอิสระทุกสภาพพื้นที่
• เครื่องยนต์ 8 หัวฉีด และปั๊ม 4 ตัว
• จุน้ำยาได้สูงสุดถึง 20 ลิตร
•ทำงานเร็ว 75 ไร่ต่อชั่วโมง
• พ่นสเปรย์น้ำยาที่รัศมีกว้าง 4-7 เมตร
• ระบบเรดาร์ตรวจจับวัตถุแบบรอบทิศทาง 360 องศา บินหลบสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ
•รีโมทคอนโทรลสีดำแบบใหม่ พร้อมหน้าจอในตัวขนาด 5 นิ้ว
•ระบบ RTK ช่วยให้ DJI AGRAS T20 ทำงานพร้อมกันได้หลายลำในแปลงเดียว
•มีถังหว่าน ใช้หว่านปุ๋ย หว่านเมล็ดพืชได้อย่างรวดเร็ว 15 กม. ภายใน 1 นาที
• สามารถใช้งานร่วมกับโดรนถ่ายภาพ DJI Phantom 4 Multispectral ที่ใช้วิเคราะห์ค่าสี เพื่อสำรวจความสมบูรณ์ของพืชในไร่ แล้วส่งภาพเข้า DJI AGRAS T20 เพื่อเปิด-ปิดปั๊ม หรือเพิ่มแรงดันปั๊มให้เหมาะสมกับคุณภาพพืชตอนนั้นได้ ทำให้ประหยัดน้ำยามากขึ้น
• สามารถใช้งานร่วมกับโดรนถ่ายภาพ DJI Phantom 4 RTK เพื่อสำรวจไร่ เช่น แปลงผลไม้ พืชสวน แล้วทำงานร่วมกับ DJI Terra เพื่อสร้างเป็นแผนที่สามมิติ และใส่ข้อมูลเข้าไปใน DJI AGRAS T20 ได้ ทำให้ผู้ใช้งานสร้างแผนที่ได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งภาพถ่ายดาวเทียม รวมถึงสามารถกำหนดเส้นทางการบินเพื่อสั่งฉีดพืชที่ละต้นได้
• บินฉีดพ่นในพื้นที่ลาดชันได้สบายๆ
•กันน้ำ กันฝุ่นได้ในระดับ IP67
•ติดตั้งกล้อง FPV และไฟสปอร์ตไลท์ 2 ดวง ทำงานได้ทั้งตอนกลางวันและในพื้นที่แสงน้อย
คลิกสั่งซื้อได้ที่ https://dronekaset.phantomthailand.com/product/dji-agras-t20/
ขอบคุณข้อมูลจาก
-เกษตรฯ เเนะชาวสวนระวังโรคผลเน่าทุเรียนระบาดหนักหลังเก็บเกี่ยว