เคล็ดลับเกษตรกรยุคใหม่
เพิ่มผลผลิตให้สวนกล้วย ด้วยเทคนิคปลูกกล้วยกลับหัว
กล้วย ถือเป็นหนึ่งผลไม้คู่บ้านของคนไทย เพราะมีประโยชน์มากมาย กินแล้วอยู่ท้อง และด้วยรสชาติที่อร่อย เป็นเอกลักษณ์ของกล้วยไทย ถูกปากถูกใจคนทั้งในประเทศและนอกประเทศ กล้วยจึงกลายเป็นอีกหนึ่งผลไม้เศรษฐกิจของไทย ที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับพี่น้องชาวสวนได้ไม่น้อย วันนี้เราจึงนำเทคนิคการเพิ่มผลผลิตกล้วย ด้วยวิธีการปลูกกล้วยกลับหัวมาฝากกันครับ
โดยปกติแล้วการปลูกกล้วย มักใช้หน่อที่สมบูรณ์ในการปลูก ซึ่งเทคนิคการปลูกกล้วยกลับหัวที่เรากล่าวถึงนั้น ก็คือการนำหน่อกล้วยเก่า (จากต้นที่เคยออกเครือแล้ว) ที่จะใช้ขยายพันธุ์มาปลูกแบบเอาเหง้าชี้ขึ้นฟ้าและเอาโคนปักลงดินนั่นเองครับ โดยการปลูกกล้วยด้วยเทคนิคนี้ ถือเป็นการปลูกพืชตีกลับ ซึ่งเป็นรูปแบบการปลูกกล้วยที่จะทำให้กล้วยได้อาศัยอาหารจากยอดของตัวเองตามธรรมชาติ ทำให้เติบโตได้เร็ว รวมถึงให้ผลที่ดกและใหญ่ โดยการปลูกกล้วยกลับหัวมีข้อดี ดังต่อไปนี้ครับ
1. ต้นกล้วยจะเตี้ยกว่าต้นกล้วยทั่วๆ ไป ทำให้กล้วยไม่ต้านลมมาก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องกล้วยหักล้ม รวมถึงทำให้เก็บผลผลิตได้ง่ายขึ้น
2. สามารถแตกหน่อได้มากขึ้น ทำให้นำหน่อไปขยายพันธุ์ต่อได้มากขึ้นด้วย
3. ออกเครือเร็วกว่าการปลูกแบบนำหน่อลงดินปกติ
4. ผลกล้วยที่ออกมา จะได้ขนาดใหญ่กว่าเดิม
วิธีการปลูกกล้วยแบบกลับหัว
1. ขุดหลุมเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 80 เซนติเมตร ยาว 80 เซนติเมตร ลึก 80 เซนติเมตร เพื่อเตรียมเป็นหลุมปลูกกล้วย หรือคำนวณจากขนาดพื้นที่ที่มี โดยต้องระวังระยะการปลูกไม่ให้ใบกล้วยบดบังแสงซึ่งกันและกัน
2. คัดเลือกหน่อกล้วยจากต้นแม่ที่เคยออกเครือแล้ว โดยเลือกหน่อที่ออกห่างจากลำต้นใหญ่เพื่อให้ได้ส่วนที่เป็นเหง้ากล้วยมากที่สุดเพราะว่าเหง้าเป็นส่วนสำคัญในการปลูกหน่อกล้วย
3. หลังจากได้หน่อกล้วยแล้ว ให้วัดจากโคนต้นขึ้นมาประมาณ 20 เซนติเมตร จากนั้นตัดเอาส่วนที่เกินและรากเก่าทิ้งไป แล้วโรยปูนขาวให้ทั่วเหง้ากล้วย เพื่อเป็นการป้องกันโรคเน่า
4. ทำการฝังหน่อกล้วยลงไปในดิน แบบเอาเหง้าชี้ขึ้นฟ้าและเอาโคนจิ้มลงดิน จากนั้นกลบดินให้มิดต้น แล้วรดน้ำให้ชุ่มทันที
5. หลักจากปลูกไปแล้วประมาณ 20-30 วัน กล้วยจะเริ่มแตกหน่อให้เห็น ให้ทำการใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก รวมทั้งรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ หน่อกล้วยที่โผล่พ้นดินออกมาจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
6. เมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือน กล้วยที่ใช้เทคนิคปลูกแบบกลับหัวก็จะออกผลให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งเร็วกว่ากล้วยที่ปลูกด้วยวิธีปกติที่ต้องใช้เวลาประมาณ 8 เดือน
สำหรับพี่น้องเกษตรกรท่านใดที่อยากเพิ่มความสมบูรณ์ของธาตุอาหารในดิน บำรุงให้สวนกล้วยของเราได้ผลผลิตแบบเครือใหญ่ รสชาติดี ก็สามารถใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ได้เลยครับ
มองหาโดรนเกษตรที่ฉีดพ่นได้ทุกรูปแบบ ดูแลครบทั้งสวนกล้วย สวนผลไม้ ไร่นาและสารพัดแปลงเกษตร ขอแนะนำ DJI AGRAS T20 โดรนเพื่อการเกษตรรุ่นใหม่ คุ้ม ครบ จบในตัวเดียว! รองรับถังน้ำยาได้สูงสุดถึง 20 ลิตร มาพร้อมสมรรถนะการบินอันทรงพลัง ที่มอบทั้งความเสถียรและความปลอดภัยในการบินให้แก่ผู้ใช้งาน บวกกับความสามารถในการฉีดพ่นที่โดดเด่น แม่นยำ พร้อมเรดาร์กันชนแบบรอบทิศทาง จึงสามารถทำงานได้อย่างอิสระทุกสภาพพื้นที่
• เครื่องยนต์ 8 หัวฉีด และปั๊ม 4 ตัว
• จุน้ำยาได้สูงสุดถึง 20 ลิตร
•ทำงานเร็ว 75 ไร่ต่อชั่วโมง
• พ่นสเปรย์น้ำยาที่รัศมีกว้าง 4-7 เมตร
• ระบบเรดาร์ตรวจจับวัตถุแบบรอบทิศทาง 360 องศา บินหลบสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ
•รีโมทคอนโทรลสีดำแบบใหม่ พร้อมหน้าจอในตัวขนาด 5 นิ้ว
•ระบบ RTK ช่วยให้ DJI AGRAS T20 ทำงานพร้อมกันได้หลายลำในแปลงเดียว
•มีถังหว่าน ใช้หว่านปุ๋ย หว่านเมล็ดพืชได้อย่างรวดเร็ว 15 กม. ภายใน 1 นาที
• สามารถใช้งานร่วมกับโดรนถ่ายภาพ DJI Phantom 4 Multispectral ที่ใช้วิเคราะห์ค่าสี เพื่อสำรวจความสมบูรณ์ของพืชในไร่ แล้วส่งภาพเข้า DJI AGRAS T20 เพื่อเปิด-ปิดปั๊ม หรือเพิ่มแรงดันปั๊มให้เหมาะสมกับคุณภาพพืชตอนนั้นได้ ทำให้ประหยัดน้ำยามากขึ้น
• สามารถใช้งานร่วมกับโดรนถ่ายภาพ DJI Phantom 4 RTK เพื่อสำรวจไร่ เช่น แปลงผลไม้ พืชสวน แล้วทำงานร่วมกับ DJI Terra เพื่อสร้างเป็นแผนที่สามมิติ และใส่ข้อมูลเข้าไปใน DJI AGRAS T20 ได้ ทำให้ผู้ใช้งานสร้างแผนที่ได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งภาพถ่ายดาวเทียม รวมถึงสามารถกำหนดเส้นทางการบินเพื่อสั่งฉีดพืชที่ละต้นได้
• บินฉีดพ่นในพื้นที่ลาดชันได้สบายๆ
•กันน้ำ กันฝุ่นได้ในระดับ IP67
•ติดตั้งกล้อง FPV และไฟสปอร์ตไลท์ 2 ดวง ทำงานได้ทั้งตอนกลางวันและในพื้นที่แสงน้อย
คลิกสั่งซื้อได้ที่ https://dronekaset.phantomthailand.com/product/dji-agras-t20/
ขอบคุณข้อมูลจาก