เคล็ดลับเกษตรกรยุคใหม่
ปลูกถั่วเหลืองเป็นปุ๋ยพืชสด เคล็ดลับบำรุงดิน ช่วยเสริมรายได้!
ในการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร ดินถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ส่งผลโดยตรงกับผลผลิตที่พี่น้องเกษตรกรปลูก วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับในการบำรุงดินในแบบของ Smart Farmer ด้วยการปลูกถั่วเหลืองเพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดมาฝากกันครับ บอกเลยว่าคุ้ม 2 ต่อ เพราะนอกจากจะได้ปรับปรุงดินให้มีคุณภาพพร้อมสำหรับการเพาะปลูกครั้งต่อไปแล้ว ยังสามารถนำถั่วเหลืองที่ปลูกไปขายเป็นรายได้เสริมได้อีกทางหนึ่งด้วยนะครับ
ซึ่งการปลูกพืชตระกูลถั่ว อย่าง ‘ถั่วเหลือง’ นั้น ถือเป็นการพักดินอย่างหนึ่ง เพราะพืชในตระกูลนี้จะช่วยเพิ่มไนโตรเจนให้กับดินด้วยการตรึงไนโตรเจนจากอากาศมาสะสมที่ปมรากถั่วใต้ดิน จึงช่วงปรับปรุงโครงสร้างและเพิ่มความสมบูรณ์ของดินได้เป็นอย่างเปรียบเสมือนการใส่ปุ๋ย นอกจากนี้ยังช่วยตัดวงจรการระบาดของโรคและแมลงศัตรูได้อีกด้วย เพราะการปลูกพืชผลทางการเกษตรอย่างต่อเนื่องโดยไม่พักดิน จะทำให้โรคและแมลงศัตรูสามารถดำรงชีวิตและขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณไปได้เรื่อยๆ ทำให้พืชผลอ่อนแอลง ผลผลิตที่ได้ก็ลดต่ำลงไปด้วยครับ
การเตรียมดินสำหรับปลูกถั่วเหลือง
1. ไถดินหรือพรวนดินกลบเศษซากวัชพืชหรือเศษตอของพืชผลเพื่อย่อยสลาย
2. ปรับพื้นที่ ให้เรียบสม่ำเสมอกัน ไม่มีพื้นที่แอ่งน้ำขัง
3. ลงลิปเปอร์เพื่อระเบิดชั้นดินดานใต้ดิน เพื่อให้น้ำไหลซึมผ่านไปได้
4. ขึ้นเบสฟอร์ม (คล้ายแปลงปลูกผัก) ระยะห่างกัน 1.85 เมตร
5. ย่อยดินให้ละเอียดเพื่อให้เหมาะสมต่อการปลูกถั่วเหลือง
การปลูกถั่วเหลือง
1. ใช้เมล็ดพันธุ์ 15 กิโลกรัมต่อไร่ ก่อนปลูกคลุกด้วยไรโซเบียม 200 กรัม
(เชื้อไรโซเบียม เป็นแบคทีเรียที่เมื่อเข้าไปอาศัยอยู่ในรากของพืชตระกูลถั่วจะสร้างปมที่ราก และปมนี้จะสามารถตรึงก๊าซไนโตรเจนจากอากาศมาเป็นสารประกอบไนโตรเจนที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้)
2. ปลูกด้วยวิธีโรยเป็นแถว ระยะระหว่างแถว 50 เซนติเมตร จำนวน 20-25 ต้นต่อแถวยาว 1 เมตร (64,000-80,000 ต้นต่อไร่)
3. ปลูกด้วยวิธีหว่าน โดยต้องหว่านเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองอย่างสม่ำเสมอ สำหรับพี่น้องเกษตรกรที่ต้องการประหยัดเวลาและแรงงานคน เราขอแนะนำ โดรนเกษตร DJI ที่ให้การหว่านที่ทั่วถึง สม่ำสมอ เมล็ดพันธุ์กระจายตัวได้ดี ซึ่งจะทำให้ได้คุณภาพผลผลิตดีตามไปด้วย
4. หลังปลูก ควรให้น้ำแบบท่วมแปลงแล้วปล่อยให้ซึมลงชั้นดินให้หมดภายในครึ่งวันการให้น้ำแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาห่างกัน 10-15 วันต่อครั้ง แต่หากปลูกถั่วเหลืองแล้วคลุมด้วยฟาง อาจให้น้ำระยะเวลาห่างกัน 15-20 วันต่อครั้ง
*ข้อควรระวังในช่วงการเจริญเติบโตของฝักและเมล็ด (ประมาณ 60 วันหลังปลูก) จะต้องระวังไม่ให้ถั่วเหลืองขาดน้ำ
การดูแลต้นถั่วเหลือง
การใส่ปุ๋ย สำหรับดินร่วนหรือดินเหนียวปนทรายใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 16-16-8 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนดินเหนียวหรือดินร่วนเหนียว ใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่กรณีปลูกแบบหยอดหรือแบบแถวให้ใส่ปุ๋ยเคมีรองพื้นพร้อมปลูก ส่วนแบบหว่านให้ใส่ปุ๋ยเคมีก่อนออกดอกหรือไม่ควรเกิน 15-20 วันหลังปลูก
การเก็บเกี่ยว
สามรถเก็บเกี่ยวช่วงได้ตั้งแต่อายุ 75 ถึง 120 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ของถั่วเหลือง โดยสังเกตจากเปลือกฝักเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ประมาณ 95 % ก็แสดงว่าสามารถเก็บไปส่งขายได้แล้ว นอกจากนี้หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ยังสามารถไถกลบต้นถั่วเหลืองเพื่อเป็นปุ๋ยในดิน ประหยัดต้นทุนไปได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ
สำหรับพี่น้องเกษตรกรท่านใด ที่กำลังมองหาตัวช่วยๆดี มาช่วยเบาแรงในการทำเกษตรกรรมแบบครบ จบในตัวเดียว ไม่ควรพลาด DJI โดรนเกษตร รุ่น T20 สุดอัจฉริยะเลยครับ เพราะไม่ว่าจะหว่านเมล็ด พ่นปุ๋ย พ่นสเปรย์น้ำยาฆ่าแมลงหรือกำจัดวัชพืช ก็สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ เปี่ยมประสิทธิภาพ แถมยังทำหน้าที่หว่านและพ่นได้อย่างตรงจุด ไม่มีพลาด ให้ต้องกลายเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเลยด้วย เซฟทั้งเวลา สุขภาพและเงินลงทุนเพื่อทำการเกษตรในระยะยาวได้อย่างคุ้มค่าแบบนี้ ไม่มีไม่ได้แล้วนะครับ!
โดรนการเกษตร DJI AGRAS T20
- เครื่องยนต์ 8 หัวฉีด และปั๊ม 4 ตัว ความจุ 20 ลิตร
- พ่นสเปรย์น้ำยาที่รัศมี 4-7 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 75 ไร่ต่อชั่วโมง
- กล้อง FPV ดูภาพวิดีโอเรียลไทม์แบบความละเอียดสูง
- เรดาร์แม่นยำสูง ตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบทิศทาง 360 องศา
- รีโมทคอนโทรลสีดำแบบใหม่ พร้อมหน้าจอในตัวขนาด 5 นิ้ว
- ระบบ RTK ช่วยให้ T20 ทำงานพร้อมกันได้หลายลำในแปลงเดียว
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ DJI Phantom Thailand ยินดีให้บริการครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก