เคล็ดลับเกษตรกรยุคใหม่
แนะวิธี ปลูกเงาะโรงเรียนให้ได้ผลดก สร้างรายได้งาม!
เงาะพันธุ์โรงเรียน ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเงาะพันธุ์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และเป็นเงาะพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลกด้วย จึงถือเป็นอีกหนึ่งพันธุ์เงาะที่พี่น้องเกษตรกรนิยมปลูก เพราะสามารถขายได้ในราคาดีทั้งแบบรับซื้อในประเทศและแบบส่งออก วันนี้เราจึงมีวิธีการปลูกเจ้าเงาะพันธุ์นี้ให้ได้ผลดกสวยมาฝากทุกท่านกันครับ
วิธีปลูกเงาะโรงเรียน
1. ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้าง ยาว และลึก ประมาณด้านละ 50 เซนติเมตร โดยระยะปลูกที่แนะนำ คือ 6×8-6×8 เมตร หรือคำนวณตามความเหมาะสมของแปลงปลูก
2. ผสมปุ๋ยคอก 5 กิโลกรัมเข้ากับปุ๋ยร็อกฟอสเฟต 500 กรัม ใส่รองก้นหลุม ให้สูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
3. นำถุงกล้าที่แกะพลาสติกออกแล้วลงปลูก ควรหาวัสดุคลุมบริเวณต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง
4. รดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลและบำรุงต้นเงาะโรงเรียน
– ต้นที่ยังไม่ให้ผล (0-4 ปี) : แบ่งการใส่ปุ๋ยออกเป็น 4 ครั้ง ครั้งละเท่าๆ กัน โดยใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อย่างสม่ำเสมอทุกๆ 3 เดือน ในอัตราปีละประมาณ 1-1.5 กิโลกรัมต่อต้น และเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าในการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2
– ต้นที่ให้ผลผลิตแล้ว : แบ่งการใส่ปุ๋ยออกเป็น 4 ครั้ง
ครั้งที่ 1 : หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 2-5 กิโลกรัมต่อต้น
ครั้งที่ 2 : หลังเก็บเกี่ยวแล้ว 3 เดือน ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ประมาณ 2-5 กิโลกรัมต่อต้น
ครั้งที่ 3 : เมื่อเงาะเริ่มออกดอก ใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-21 ประมาณ 2-5 กิโลกรัมต่อต้น
ครั้งที่ 4 : เมื่อเงาะเริ่มติดผล ใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-21 ประมาณ 2-5 กิโลกรัมต่อต้น
โดยเคล็ดลับที่พี่น้องเกษตรกรควรทราบ เพื่อให้สวนเงาะที่รักของเราให้ผลดกนั่นก็คือ สำหรับต้นเงาะที่ให้ผลผลิตแล้ว เมื่อใกล้ออกดอก ควรให้น้ำในปริมาณน้อยหรือหากมีฝนก็ไม่จำเป็นต้องให้น้ำเลย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแตกใบอ่อน และหากมีใบอ่อนแซมช่อดอกมาก ควรงดให้น้ำสักระยะ จนกว่าใบอ่อนที่ขึ้นแซมจะร่วงหมด ค่อยเริ่มให้น้ำใหม่ เมื่อดอกเริ่มบานและติดผลแล้ว ในช่วงการเจริญเติบโตของผล ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากได้รับน้ำไม่เพียงพอ ผลที่ได้จะไม่ค่อยดก เล็ก ลีบ และมีเปลือกหนา
นอกจากนี้ ยังควรตัดแต่งและควบคุมทรงพุ่มของต้นเงาะโรงเรียนเพื่อให้มีการแตกยอดใหม่ที่ดีอยู่เสมอ โดยแนะนำให้ตัดแต่งกิ่งก่อนใส่ปุ๋ย เลือกตัดกิ่งที่ระดิน กิ่งที่แห้งตาย กิ่งที่เป็นโรค รวมไปถึงกิ่งใบทรงพุ่มที่ไม่ได้รับแสงแดด
การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
– ช่วงแตกใบอ่อน : อาจถูกรบกวนด้วยหนอนคืบกินใบ ควรฉีดพ่นด้วยคาร์บาริล หรือคาร์โบซัลแฟน
– ช่องออกดอกและติดผล : อาจพบการรบกวนของราแป้ง ต้นที่เพิ่งเริ่มพบให้ใช้กำมะถันผงฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น แต่ถ้าหากมีโรคหนาแน่นมาก ให้ฉีดพ่นด้วยสารเคมีเบนดามิลหรือไดโนแคป ระยะห่าง 7-10 วันต่อครั้ง
สำหรับพี่น้องเกษตรท่านใดที่ต้องการดูแลสวนเงาะหรือสวนผลไม้อย่างมืออาชีพ DJI Phantom Thailand ขอแนะนำ! โดรนเกษตรรุ่นใหญ่ DJI AGRAS T30 ดูแลได้ครบวงจรทั้งงานฉีดพ่นเพื่อกำจัดศัตรูพืชหรืองานหว่านพ่นปุ๋ยก็ทำได้อย่างรวดเร็วและว่องไว ด้วยความเร็ว 75-100 ไร่/ชม. ที่มาพร้อมความจุถังใส่น้ำยาถึง 30 ลิตร บอกเลยว่ามีโดรนเกษตรตัวนี้ตัวเดียว รับรองเอาอยู่ ดูแลทั่วถึงทุกสวนที่คุณรักแน่นอนครับ
– รองรับถังน้ำยาได้สูงสุด 30 ลิตร จัดเต็ม 16 หัวฉีด พร้อมปั๊มแรงดันสูงแบบใหม่ 2 ตัว ฉีดพ่นเร็ว 8 ลิตร/ นาที
– มาตรวัดปริมาณน้ำแบบใหม่ แม่นยำ พร้อมคำนวณจุดน้ำหมดและระยะทางกลับที่ใกล้ที่สุดเพื่อประหยัดแบตเตอรี่
– หัวพ่นปรับองศาได้ เหมาะสำหรับฉีดพ่นไม้ผล ละอองสเปรย์กระจายทั่วถึง แม้กระทั่งใต้ใบหรือลำต้น
– ใช้งานร่วมกับ Phantom 4 RTK เพื่อวางแผนการบินผ่านสมาร์ตโฟนได้ โดยจัดการเส้นทางการบินในรูปแบบแผนที่สามมิติ ช่วยสร้างเส้นทางการบินที่แม่นยำ
– กันน้ำกันฝุ่นได้ ในระดับ IP67 หมดกังวลกับปัญหาฝุ่นเข้าและน้ำยากัดกร่อน สามารถล้างทำความสะอาดด้วยน้ำได้โดยตรงทั้งลำ
– ดีไซน์พับเก็บได้ ลดการใช้พื้นที่ 80% มาพร้อมชุดพับแขนออกแบบใหม่ ใช้งานง่าย และปลอดภัย
– กล้อง FPV ด้านหน้า-หลัง พร้อมไฟสปอร์ตไลท์ส่องสว่าง ช่วยให้ผู้ใช้งานดูวิดีโอถ่ายทอดสด จากกล้องความละเอียดสูงผ่านหน้าจอบนรีโมตฯ ได้ทันที
– เรดาร์ทรงกลม กันชนได้รอบทิศทาง สามารถบินหลบหลีกสิ่งกีดขวางให้อัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานได้เต็มที่
– แบตเตอรี่รุ่นใหม่ ความจุ 29,000 mAh ชาร์จได้ถึง 1,000 รอบ และรองรับการชาร์จเร็วภายใน 10 นาที
– ถังหว่านเมล็ด ความจุ 35 ลิตร รองรับการใส่ปุ๋ยที่หลากหลาย และการหว่านมีความแม่นยำมากขึ้น ช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากกว่าเดิม
==============================
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลและโปรโมชั่นเพิ่มเติม ได้ที่ DJI Phantom Thailand ยินดีให้บริการครับ
Inbox: http://m.me/115022916869194
LINE: http://line.me/ti/p/[email protected]
Phone: 02-026-3807
ขอบคุณข้อมูลจาก